
โศกนาฏกรรมวงการลูกหนัง: ฆอร์เฆ โกสตา ตำนานแห่ง FC Porto เสียชีวิตในวัย 53 ปี
Mansion Sports – วงการฟุตบอลโปรตุเกสต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อฆอร์เฆ โกสตา อดีตกัปตันทีมระดับตำนานของสโมสร FC Porto ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจวายที่ศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสรในวัยเพียง 53 ปี โกสตาถือเป็นหนึ่งในกองหลังผู้แข็งแกร่ง และเป็นผู้นำที่พา Porto ก้าวสู่ความสำเร็จสูงสุดภายใต้การคุมทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2004
ตลอดอาชีพของเขา โกสตาไม่ได้เป็นเพียงแค่แกนหลักของแนวรับ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของทีมชาติโปรตุเกส โดยติดทีมชาติถึง 50 นัด การจากไปของเขานับเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะต่อ FC Porto ที่เพิ่งแต่งตั้งเขาให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลอาชีพเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
เส้นทางอันรุ่งโรจน์กับ FC Porto
ฆอร์เฆ โกสตา เติบโตจากอะคาเดมีของ FC Porto และลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ถึง 324 นัด เขาคว้าแชมป์กับสโมสรถึง 24 รายการ รวมถึงแชมป์ลีกโปรตุเกส 8 สมัย, แชมป์ยูฟ่าคัพ และแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2004 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้ง
ในฤดูกาล 2001–2002 เขาย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษกับสโมสรชาร์ลตัน แอธเลติกในฐานะนักเตะยืมตัว โดยลงเล่นไป 26 นัด ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2006 และหันเข้าสู่วงการโค้ชฟุตบอลอย่างเต็มตัว
เส้นทางสายผู้ฝึกสอนและบทบาทในฐานะผู้อำนวยการ
หลังอำลาสนาม โกสตาเริ่มต้นอาชีพโค้ชกับสโมสรบราก้า และเดินทางทำงานในหลายประเทศกับทีมฟุตบอลต่าง ๆ รวมถึงโปรตุเกส, โรมาเนีย, ไซปรัส, ตูนิเซีย, อินเดีย และกาบอง รวมทั้งสิ้น 16 สโมสร
ในฤดูกาลที่ผ่านมา เขากลับมารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลอาชีพของ FC Porto ซึ่งถือเป็นการสานสัมพันธ์ทั้งในระดับอารมณ์และหน้าที่กับสโมสรที่เขาผูกพันตั้งแต่วัยเยาว์
ความอาลัยจากแวดวงลูกหนัง
การจากไปของฆอร์เฆ โกสตาสร้างความสั่นสะเทือนต่อวงการฟุตบอลโปรตุเกส โดย FC Porto ได้ออกแถลงการณ์ไว้อาลัยว่า โกสตาเป็นตัวแทนของค่านิยมที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร ทั้งความเสียสละ ภาวะผู้นำ ความหลงใหล และจิตวิญญาณนักสู้ที่ไม่เคยลดละ
โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเคยร่วมคว้าแชมป์กับโกสตา ก็กล่าวถึงเขาด้วยน้ำตาคลอระหว่างการแถลงข่าวก่อนเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกระหว่างเฟเนร์บาห์เช่กับเฟเยนูร์ด
“ถ้าเขายังอยู่ เขาคงพูดว่า ‘ทำหน้าที่ของนายต่อไป ชนะเกมวันพรุ่งนี้ และอย่าใส่ใจฉัน’ ผมจะพยายามทำงานให้ได้วันนี้และพรุ่งนี้... แล้วค่อยร้องไห้ทีหลัง” มูรินโญ่กล่าวด้วยความเศร้า
ความสูญเสียต่อเนื่องของ FC Porto
การจากไปของฆอร์เฆ โกสตา ถือเป็นการสูญเสียครั้งที่สามของสโมสรในช่วงฤดูร้อนนี้ หลังจากที่ดิเอโก้ โชต้า อดีตนักเตะยืมตัว และอังเดร ซิลวา น้องชายของเขา ต่างก็เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าในเดือนกรกฎาคม การสูญเสียบุคคลสำคัญถึงสามรายในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้บรรยากาศในสโมสรเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
คำรำลึกจากเพื่อนร่วมทีมและนักเตะรุ่นน้อง
เดโก้ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2004 ร่วมกับโกสตา กล่าวถึงเขาว่าเป็น “กัปตันผู้เป็นตำนาน” และเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งของ FC Porto โดยเขาโพสต์ข้อความบน Instagram ว่า “วันนี้ วงการฟุตบอลโปรตุเกสและ FC Porto ได้สูญเสียหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตนเองไป”
เปเป้ ปราการหลังระดับอาวุโสของทีม ก็ได้แสดงความไว้อาลัยเช่นกัน โดยกล่าวว่า “ความเสียสละและมรดกของคุณจะยังคงอยู่ในประวัติศาสตร์แห่งชัยชนะของ FC Porto ไปตลอดกาล หลับให้สบายนะ ฆอร์เฆ โกสตา”
เกียรติประวัติส่วนตัวและความทรงจำอันยั่งยืน
ในปี 2000 ฆอร์เฆ โกสตาได้รับรางวัล Bola de Ouro หรือ "ลูกบอลทองคำแห่งโปรตุเกส" ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของลีก แม้จะเคยมีความขัดแย้งกับโค้ชอย่างอ็อกตาวิโอ มาชาโด และถูกปล่อยยืมตัวไปยังชาร์ลตัน แต่ความสามารถของเขาก็ยังคงได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมและผู้ฝึกสอน
อลัน เคอร์บิชลีย์ อดีตผู้จัดการทีมชาร์ลตัน กล่าวถึงโกสตาว่าเป็นบุคคลที่มีคาแรกเตอร์อันแข็งแกร่งและได้รับความเคารพอย่างสูง “เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเสมอในการแสดงความคิดเห็น และทุกคนให้เกียรติเขาเพราะความสามารถอันแท้จริง”
ความอาลัยจากบราก้าและสังคมกีฬาโปรตุเกส
สปอร์ติ้ง บราก้า สโมสรที่โกสตาเคยเริ่มต้นอาชีพการเป็นโค้ช ได้ออกแถลงการณ์ผ่านบัญชี X อย่างเป็นทางการว่า “การจากไปของฆอร์เฆ โกสตาทำให้ชุมชนกีฬาทั้งประเทศต้องโศกเศร้า” พร้อมทั้งส่งความเสียใจไปยังครอบครัวและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ FC Porto
ฆอร์เฆ โกสตา ไม่ได้เป็นเพียงนักฟุตบอลเท่านั้น แต่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น และความภักดีในโลกแห่งกีฬาโปรตุเกส ชื่อของเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของ FC Porto และวงการฟุตบอลยุโรปตลอดไป
ลาก่อน กัปตันผู้เป็นตำนาน