
โชเซ่ มูรินโญ่หลั่งน้ำตา รำลึกการจากไปของจอร์จ คอสต้า
Mansion Sports – ในโลกของฟุตบอลที่เต็มไปด้วยความสำเร็จและความสูญเสีย ข่าวการจากไปของ จอร์จ คอสต้า ได้ก่อให้เกิดความเศร้าโศกอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะกับ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือของเรอัล มาดริดและเอฟซี ปอร์โต้ ซึ่งถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ไหวขณะให้สัมภาษณ์สื่อในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
เขากล่าวรำลึกถึงลูกทีมเก่าผู้ล่วงลับไปด้วยอาการหัวใจวาย ขณะมีอายุเพียง 53 ปี พร้อมแสดงความอาลัยต่อบุคคลที่มีความสำคัญยิ่งในชีวิตการทำงานและส่วนตัวของเขา
ความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างมูรินโญ่กับคอสต้า
ความสัมพันธ์ระหว่างมูรินโญ่และคอสต้านั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าความเป็นผู้จัดการทีมกับลูกทีม ทั้งสองร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ให้กับเอฟซี ปอร์โต้ ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2004
คอสต้าไม่ใช่เพียงนักเตะในทีม แต่เป็นผู้นำในสนามและในห้องแต่งตัว เป็นบุคคลที่มูรินโญ่อธิบายว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “เรื่องราวชีวิต” ของเขาอย่างแท้จริง
เส้นทางชีวิตและการอุทิศตนของจอร์จ คอสต้าในวงการฟุตบอล
จอร์จ คอสต้าเป็นกองหลังตัวกลางที่แข็งแกร่ง มีอาชีพค้าแข้งยาวนานถึง 19 ปี โดยส่วนใหญ่ทุ่มเทให้กับเอฟซี ปอร์โต้ สโมสรที่หล่อหลอมเขาและที่เขาลงสนามมากกว่า 300 นัด
เขายังเคยถูกยืมตัวไปเล่นให้กับชาร์ลตัน แอธเลติก และสตองดาร์ ลีแอช ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2006
หลังจากเลิกเล่น คอสต้าหันเหสู่เส้นทางผู้ฝึกสอน และในช่วงเวลา 17 ปีที่ผ่านมา เขารับหน้าที่คุมทีมหลายแห่งในโปรตุเกส โดยล่าสุดเขากลับมารับตำแหน่งผู้อำนวยการทั่วไปของเอฟซี ปอร์โต้ ภายใต้การบริหารของอันเดร วิลลาส-โบอาสในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ชะตากลับเล่นตลก เมื่อเขาเสียชีวิตกะทันหันด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวในวันอังคาร ท่ามกลางความตกตะลึงของวงการลูกหนังทั้งในและนอกประเทศ
คำไว้อาลัยจากมูรินโญ่: “เขาไม่ใช่แค่กัปตัน แต่คือผู้นำโดยแท้จริง”
ก่อนเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกระหว่างเฟเนร์บาห์เช่และเฟเยนูร์ดในวันพุธ มูรินโญ่ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อด้วยสีหน้าเศร้าหมองและน้ำเสียงสั่นเครือ
เขากล่าวว่า จอร์จ คอสต้าไม่ใช่เพียงแค่กัปตันทีม แต่คือผู้นำผู้แท้จริง ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญทั้งในและนอกสนาม
“เขาคือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชีวิตผม เหมือนกับบทหนึ่งของชีวิตที่จากไปแล้ว” มูรินโญ่กล่าว
เขายังเสริมอีกว่า
“มีความแตกต่างระหว่างกัปตันกับผู้นำ มันไม่ใช่แค่ปลอกแขนกัปตัน แต่มันคือสิ่งที่เขาเป็นและสิ่งที่เขาแสดงออกมา”
มูรินโญ่ยังกล่าวถึงบทบาทของคอสต้าในทีมว่าเขาเป็น “ผู้ชำระล้างความวุ่นวาย” ผู้ที่ทำให้โค้ชสามารถโฟกัสกับหน้าที่ของตน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องบรรยากาศภายในทีม
ความมุ่งมั่นของมูรินโญ่ในการปฏิบัติหน้าที่แม้หัวใจจะเจ็บปวด
แม้จะตกอยู่ในความโศกเศร้า มูรินโญ่ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดในเกมสำคัญที่จะพบกับเฟเยนูร์ด
เขากล่าวอย่างแน่วแน่ว่า หากคอสต้ายังมีชีวิตอยู่ เขาย่อมต้องการให้เขาเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไปอย่างมืออาชีพ
“ถ้าจอร์จยังอยู่ เขาคงพูดว่า ‘จัดการแถลงข่าวของนายต่อ พรุ่งนี้เล่นเกมของนายให้จบ แล้วลืมฉันไป’” มูรินโญ่กล่าวทั้งน้ำตาคลอ
“นั่นคือสิ่งที่ผมจะพยายามทำ วันนี้และพรุ่งนี้ผมจะทำงานของผม แล้วหลังจากนั้นค่อยร้องไห้”
เดโก้เดินทางกลับโปรตุเกสเพื่อร่วมไว้อาลัย
เดโก้ ผู้อำนวยการกีฬาของบาร์เซโลนาในปัจจุบัน และอดีตเพื่อนร่วมทีมของคอสต้า ก็ได้เดินทางกลับโปรตุเกสเพื่อเข้าร่วมพิธีศพ
ทั้งเดโก้, คอสต้า และมูรินโญ่ ล้วนเป็นส่วนสำคัญของทีมเอฟซี ปอร์โต้ที่คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2004
การปรากฏตัวของเดโก้ในงานศพถือเป็นสัญลักษณ์ของความเคารพและการยกย่องอย่างสุดซึ้งต่ออิทธิพลของคอสต้าในวงการฟุตบอลโปรตุเกสและยุโรป
จอร์จ คอสต้า: กัปตัน ผู้นำ และสัญลักษณ์ของเอฟซี ปอร์โต้ตลอดกาล
การจากไปของจอร์จ คอสต้า ไม่ใช่เพียงการสูญเสียของสโมสรเอฟซี ปอร์โต้ แต่ยังเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการฟุตบอลโลก
เขาคือบุคคลที่แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดี วินัย และภาวะผู้นำอย่างแท้จริงทั้งในและนอกสนาม
อิทธิพลของเขาไม่ได้สะท้อนเพียงแค่จำนวนถ้วยรางวัลหรือจำนวนการติดทีมชาติ แต่ยังแสดงออกผ่านความเคารพที่ได้รับจากโค้ชและเพื่อนร่วมทีม
ในคำพูดของมูรินโญ่ คอสต้าไม่ใช่เพียงแค่บทหนึ่งของประวัติศาสตร์สโมสร แต่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชีวิตที่ไม่อาจลืมเลือน
ชื่อของเขาจะยังคงอยู่ในความทรงจำและแรงบันดาลใจของแฟนบอลทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่เคยได้เห็นการอุทิศตนของเขาตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา