แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล็งคว้า นิโกลาส์ แจ็คสัน เพื่อเสริมแนวรุก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล็งคว้า นิโกลาส์ แจ็คสัน เพื่อเสริมแนวรุก

Mansion Sports - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการคว้าตัว นิโกลาส์ แจ็คสัน กองหน้าชาวเซเนกัลของเชลซี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแดนหน้า หลังจากผลงานเกมรุกของทีมยังไม่เป็นที่น่าพอใจในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยสโมสรปีศาจแดงแสดงความสนใจอย่างจริงจังที่จะมอบโอกาสครั้งใหม่ให้กับนักเตะรายนี้ ซึ่งเริ่มตั้งคำถามถึงอนาคตของตนเองที่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

การแข่งขันที่ดุเดือดในเชลซีผลักดันให้แจ็คสันเริ่มคิดเรื่องการย้ายทีม

ตามรายงานของ The Times ระบุว่า แจ็คสันเริ่มพิจารณาอนาคตกับเชลซีอย่างจริงจัง หลังจากสโมสรจากลอนดอนตะวันตกทำการเสริมทัพในแดนหน้า โดยเซ็นสัญญากับ เลียม เดลัป จากอิปสวิช ทาวน์ และ เจา เปโดร จากไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ซึ่งการมาของทั้งสองผู้เล่นดังกล่าวทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเข้มข้นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวจริงที่แจ็คสันเคยครองอยู่ตลอดสองฤดูกาลหลัง

ในช่วงเวลาที่อยู่กับเชลซี แจ็คสันทำผลงานได้ไม่น้อย โดยยิงไปแล้ว 30 ประตูจากการลงสนาม 81 นัดในทุกรายการ แม้ว่าจะรักษาระดับผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา แต่ความเชื่อมั่นจากสโมสรดูเหมือนจะเริ่มลดลงตามลำดับ เนื่องจากการมาของนักเตะใหม่ ทำให้โอกาสในการย้ายทีมของเขาเปิดกว้าง โดยมีหลายสโมสรที่พร้อมจะยื่นข้อเสนอหากเชลซีตัดสินใจขายในราคาที่เหมาะสม หนึ่งในนั้นคือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงเอซี มิลาน และแอสตัน วิลลา

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการศูนย์หน้าคนใหม่อย่างเร่งด่วน

สถานการณ์ในแดนหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บีบบังคับให้สโมสรต้องมองหาทางเลือกใหม่ โดย ราสมุส ฮอยลุนด์ ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ โจชัว เซิร์กซี ก็มีผลงานที่ต่ำกว่าความคาดหวัง โดยยิงได้เพียง 7 ประตูจาก 49 นัดในฤดูกาลแรกกับทีม

การเสริมผู้เล่นแนวรุกที่มีความเฉียบคมอย่างแจ็คสันจึงถูกมองว่าเป็นทางออกที่จะช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับทีมของ เอริก เทน ฮาก อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการคว้าตัวนักเตะรายนี้อาจเจออุปสรรคใหญ่ เนื่องจากเชลซีตั้งค่าตัวของแจ็คสันไว้สูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 115.3 ล้านยูโร หรือ 133.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการเจรจาของยูไนเต็ดในดีลอื่นที่ยังติดขัด เช่น ความพยายามเซ็นสัญญากับ ไบรอัน เอ็มบูโม่ จากเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งสโมสรต้นสังกัดของเอ็มบูโม่ตั้งราคาสูงยิ่งกว่าค่าตัวที่ยูไนเต็ดเคยจ่ายให้วูล์ฟส์เพื่อคว้า มาเธอุส คุนญา

อนาคตของแจ็คสันในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ยังไม่แน่นอน

ผลงานของแจ็คสันในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกก็ไม่เพียงพอที่จะการันตีตำแหน่งตัวจริงในทีมเชลซี เขาได้ลงเล่นเพียง 3 นัดในรายการดังกล่าว รวมถึงเกมที่โดนใบแดงในนัดพบกับฟลาเมงโก และอีกเหตุการณ์ที่ถูกวิจารณ์โดย โคล พาล์มเมอร์ เพื่อนร่วมทีม หลังจากแจ็คสันเลือกยิงเองแทนที่จะจ่ายบอลในเกมรอบรองชนะเลิศกับฟลูมิเนนเซ

หากตัดสินใจอยู่ต่อ แจ็คสันจะต้องแข่งขันอย่างหนักกับเดลัปและเปโดรภายใต้การคุมทีมของเฮดโค้ชคนใหม่ เอนโซ มาเรสกา ซึ่งยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับบทบาทของเขาในฤดูกาลที่จะมาถึง

ดังนั้น ช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ปี 2025 จึงถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งสำหรับตัวนักเตะและสโมสรต่าง ๆ ที่แสดงความสนใจในตัวเขา โดยยังไม่ชัดเจนว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะยอมเดินหน้าพร้อมจ่ายค่าตัวตามที่เชลซีเรียกร้อง หรือจะเผชิญกับความล้มเหลวอีกครั้งเหมือนกรณีการย้ายทีมที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นประเด็นสำคัญในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

Related News

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล็งคว้า นิโกลาส์ แจ็คสัน เพื่อเสริมแนวรุก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล็งคว้า นิโกลาส์ แจ็คสัน เพื่อเสริมแนวรุก

Mansion Sports - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการคว้าตัว นิโกลาส์ แจ็คสัน กองหน้าชาวเซเนกัลของเชลซี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแดนหน้า หลังจากผลงานเกมรุกของทีมยังไม่เป็นที่น่าพอใจในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยสโมสรปีศาจแดงแสดงความสนใจอย่างจริงจังที่จะมอบโอกาสครั้งใหม่ให้กับนักเตะรายนี้ ซึ่งเริ่มตั้งคำถามถึงอนาคตของตนเองที่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

การแข่งขันที่ดุเดือดในเชลซีผลักดันให้แจ็คสันเริ่มคิดเรื่องการย้ายทีม

ตามรายงานของ The Times ระบุว่า แจ็คสันเริ่มพิจารณาอนาคตกับเชลซีอย่างจริงจัง หลังจากสโมสรจากลอนดอนตะวันตกทำการเสริมทัพในแดนหน้า โดยเซ็นสัญญากับ เลียม เดลัป จากอิปสวิช ทาวน์ และ เจา เปโดร จากไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ซึ่งการมาของทั้งสองผู้เล่นดังกล่าวทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเข้มข้นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวจริงที่แจ็คสันเคยครองอยู่ตลอดสองฤดูกาลหลัง

ในช่วงเวลาที่อยู่กับเชลซี แจ็คสันทำผลงานได้ไม่น้อย โดยยิงไปแล้ว 30 ประตูจากการลงสนาม 81 นัดในทุกรายการ แม้ว่าจะรักษาระดับผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา แต่ความเชื่อมั่นจากสโมสรดูเหมือนจะเริ่มลดลงตามลำดับ เนื่องจากการมาของนักเตะใหม่ ทำให้โอกาสในการย้ายทีมของเขาเปิดกว้าง โดยมีหลายสโมสรที่พร้อมจะยื่นข้อเสนอหากเชลซีตัดสินใจขายในราคาที่เหมาะสม หนึ่งในนั้นคือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงเอซี มิลาน และแอสตัน วิลลา

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการศูนย์หน้าคนใหม่อย่างเร่งด่วน

สถานการณ์ในแดนหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บีบบังคับให้สโมสรต้องมองหาทางเลือกใหม่ โดย ราสมุส ฮอยลุนด์ ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ โจชัว เซิร์กซี ก็มีผลงานที่ต่ำกว่าความคาดหวัง โดยยิงได้เพียง 7 ประตูจาก 49 นัดในฤดูกาลแรกกับทีม

การเสริมผู้เล่นแนวรุกที่มีความเฉียบคมอย่างแจ็คสันจึงถูกมองว่าเป็นทางออกที่จะช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับทีมของ เอริก เทน ฮาก อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการคว้าตัวนักเตะรายนี้อาจเจออุปสรรคใหญ่ เนื่องจากเชลซีตั้งค่าตัวของแจ็คสันไว้สูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 115.3 ล้านยูโร หรือ 133.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการเจรจาของยูไนเต็ดในดีลอื่นที่ยังติดขัด เช่น ความพยายามเซ็นสัญญากับ ไบรอัน เอ็มบูโม่ จากเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งสโมสรต้นสังกัดของเอ็มบูโม่ตั้งราคาสูงยิ่งกว่าค่าตัวที่ยูไนเต็ดเคยจ่ายให้วูล์ฟส์เพื่อคว้า มาเธอุส คุนญา

อนาคตของแจ็คสันในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ยังไม่แน่นอน

ผลงานของแจ็คสันในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกก็ไม่เพียงพอที่จะการันตีตำแหน่งตัวจริงในทีมเชลซี เขาได้ลงเล่นเพียง 3 นัดในรายการดังกล่าว รวมถึงเกมที่โดนใบแดงในนัดพบกับฟลาเมงโก และอีกเหตุการณ์ที่ถูกวิจารณ์โดย โคล พาล์มเมอร์ เพื่อนร่วมทีม หลังจากแจ็คสันเลือกยิงเองแทนที่จะจ่ายบอลในเกมรอบรองชนะเลิศกับฟลูมิเนนเซ

หากตัดสินใจอยู่ต่อ แจ็คสันจะต้องแข่งขันอย่างหนักกับเดลัปและเปโดรภายใต้การคุมทีมของเฮดโค้ชคนใหม่ เอนโซ มาเรสกา ซึ่งยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับบทบาทของเขาในฤดูกาลที่จะมาถึง

ดังนั้น ช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ปี 2025 จึงถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งสำหรับตัวนักเตะและสโมสรต่าง ๆ ที่แสดงความสนใจในตัวเขา โดยยังไม่ชัดเจนว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะยอมเดินหน้าพร้อมจ่ายค่าตัวตามที่เชลซีเรียกร้อง หรือจะเผชิญกับความล้มเหลวอีกครั้งเหมือนกรณีการย้ายทีมที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นประเด็นสำคัญในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

Related News