แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดตัว ไบรอัน เอ็มเบวโม่ อย่างเป็นทางการจากเบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัว 71 ล้านปอนด์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดตัว ไบรอัน เอ็มเบวโม่ อย่างเป็นทางการจากเบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัว 71 ล้านปอนด์

Mansion Sports - สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัว ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ปีกทีมชาติแคเมอรูนจากเบรนท์ฟอร์ดอย่างเป็นทางการ หลังจากกระบวนการเจรจาที่ยืดเยื้อมาหลายสัปดาห์

การย้ายทีมครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 71 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.4 ล้านล้านรูเปียห์ ส่งผลให้เอ็มเบวโม่กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และถือเป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญภายใต้การบริหารของกุนซือคนใหม่ รูเบน อาโมริม

เอ็มเบวโม่ได้รับการคาดหวังว่าจะช่วยเติมเต็มช่องโหว่ในเกมรุกของทีม ซึ่งมีปัญหาอย่างหนักตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา

สัญญา 5 ปีพร้อมออปชันขยาย เพิ่มความมั่นคงระยะยาว

จากแถลงการณ์ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุว่า ไบรอัน เอ็มเบวโม่ได้ลงนามในสัญญาระยะเวลา 5 ปี จนถึงปี 2030 พร้อมเงื่อนไขขยายเพิ่มอีก 1 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจในระยะยาวที่ทีมมีต่อปีกวัย 25 ปี รายนี้

เจ้าตัวเปิดเผยความรู้สึกผ่านเว็บไซต์สโมสรว่าเขาไม่ลังเลที่จะตอบรับข้อเสนอจากทีมในฝันทันทีที่ทราบข่าว พร้อมย้ำถึงความผูกพันในวัยเด็กกับชุดแข่งปีศาจแดงที่เขาเคยสวมใส่

“ทันทีที่ผมรู้ว่ามีโอกาสย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมไม่ลังเลเลย นี่คือสโมสรที่ผมรักตั้งแต่เด็ก และผมรู้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ใช่สำหรับการก้าวต่อไปในอาชีพของผม”
— ไบรอัน เอ็มเบวโม่

สนับสนุนเต็มที่ต่อรูเบน อาโมริม และวิสัยทัศน์ระยะยาวของสโมสร

เอ็มเบวโม่ยังกล่าวยกย่องกุนซือคนใหม่ รูเบน อาโมริม ว่าเป็นบุคคลที่เขาเฝ้ารอที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองภายใต้การนำของเขา อีกทั้งยังมั่นใจในทิศทางใหม่ของทีมที่กำลังสร้างขึ้นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

“ผมรู้ว่าผมมีพลังและคาแรกเตอร์ที่จะพัฒนาไปอีกระดับที่นี่ ผมจะได้เรียนรู้จากรูเบน อาโมริม และได้เล่นร่วมกับนักเตะระดับโลกในทีมชุดนี้”

“ทุกคนพูดถึงบรรยากาศใหม่ที่กำลังก่อตัวในสโมสรแห่งนี้ และแผนงานระยะยาวที่น่าตื่นเต้นซึ่งจะพาเรากลับไปสู่ความยิ่งใหญ่”
— ไบรอัน เอ็มเบวโม่

เจ้าตัวยังเน้นถึงความสำคัญของสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด และฐานแฟนบอลอันแข็งแกร่ง ว่าเป็นแรงผลักดันสำคัญในการตัดสินใจย้ายมา และเป้าหมายหลักของเขาคือการนำทีมกลับมาลุ้นแชมป์ในทุกรายการอีกครั้ง

ความหวังใหม่ในแดนหน้า เพื่อแก้ปัญหาการจบสกอร์

การมาของเอ็มเบวโม่ถือเป็นการเสริมทัพที่ตอบโจทย์ทันทีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะในบริบทของปัญหาเกมรุกที่น่าเป็นห่วงตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา

ทีมปีศาจแดงจบฤดูกาลที่แล้วในอันดับที่ 15 ของตารางพรีเมียร์ลีก ซึ่งนับเป็นผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างยิ่ง และยัง เป็นรองเบรนท์ฟอร์ดถึง 5 อันดับ ทั้งยังมีสถิติจำนวนประตูที่น่าผิดหวัง

ด้วยการที่เอ็มเบวโม่กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ความคาดหวังจึงสูงตามไปด้วย โดยแฟนบอลและสื่อมวลชนต่างเฝ้ารอดูว่าเขาจะสามารถยกระดับแนวรุกของทีมได้หรือไม่

สัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงในยุคใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

การเซ็นสัญญากับเอ็มเบวโม่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเสริมผู้เล่นคุณภาพ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในการยกระดับทีมอย่างเป็นระบบ ภายใต้การนำของกุนซือใหม่อย่างรูเบน อาโมริม

การลงทุนมหาศาลในผู้เล่นรายนี้ถือเป็น สัญญาณแห่งการเปลี่ยนผ่าน ไปสู่ยุคใหม่ที่มีความหวัง พร้อมด้วยโครงสร้างที่เน้นการพัฒนาในระยะยาว และเน้นการสร้างทีมที่มีศักยภาพในการลุ้นแชมป์ทุกรายการทั้งในประเทศและเวทียุโรป

เหล่าแฟนบอล “เรดอาร์มี่” ทั่วโลกต่างเฝ้ารอให้เอ็มเบวโม่กลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของยุคสมัยใหม่ ที่จะนำพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับคืนสู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

Related News

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดตัว ไบรอัน เอ็มเบวโม่ อย่างเป็นทางการจากเบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัว 71 ล้านปอนด์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดตัว ไบรอัน เอ็มเบวโม่ อย่างเป็นทางการจากเบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัว 71 ล้านปอนด์

Mansion Sports - สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัว ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ปีกทีมชาติแคเมอรูนจากเบรนท์ฟอร์ดอย่างเป็นทางการ หลังจากกระบวนการเจรจาที่ยืดเยื้อมาหลายสัปดาห์

การย้ายทีมครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 71 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1.4 ล้านล้านรูเปียห์ ส่งผลให้เอ็มเบวโม่กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และถือเป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญภายใต้การบริหารของกุนซือคนใหม่ รูเบน อาโมริม

เอ็มเบวโม่ได้รับการคาดหวังว่าจะช่วยเติมเต็มช่องโหว่ในเกมรุกของทีม ซึ่งมีปัญหาอย่างหนักตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา

สัญญา 5 ปีพร้อมออปชันขยาย เพิ่มความมั่นคงระยะยาว

จากแถลงการณ์ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุว่า ไบรอัน เอ็มเบวโม่ได้ลงนามในสัญญาระยะเวลา 5 ปี จนถึงปี 2030 พร้อมเงื่อนไขขยายเพิ่มอีก 1 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจในระยะยาวที่ทีมมีต่อปีกวัย 25 ปี รายนี้

เจ้าตัวเปิดเผยความรู้สึกผ่านเว็บไซต์สโมสรว่าเขาไม่ลังเลที่จะตอบรับข้อเสนอจากทีมในฝันทันทีที่ทราบข่าว พร้อมย้ำถึงความผูกพันในวัยเด็กกับชุดแข่งปีศาจแดงที่เขาเคยสวมใส่

“ทันทีที่ผมรู้ว่ามีโอกาสย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมไม่ลังเลเลย นี่คือสโมสรที่ผมรักตั้งแต่เด็ก และผมรู้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ใช่สำหรับการก้าวต่อไปในอาชีพของผม”
— ไบรอัน เอ็มเบวโม่

สนับสนุนเต็มที่ต่อรูเบน อาโมริม และวิสัยทัศน์ระยะยาวของสโมสร

เอ็มเบวโม่ยังกล่าวยกย่องกุนซือคนใหม่ รูเบน อาโมริม ว่าเป็นบุคคลที่เขาเฝ้ารอที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองภายใต้การนำของเขา อีกทั้งยังมั่นใจในทิศทางใหม่ของทีมที่กำลังสร้างขึ้นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

“ผมรู้ว่าผมมีพลังและคาแรกเตอร์ที่จะพัฒนาไปอีกระดับที่นี่ ผมจะได้เรียนรู้จากรูเบน อาโมริม และได้เล่นร่วมกับนักเตะระดับโลกในทีมชุดนี้”

“ทุกคนพูดถึงบรรยากาศใหม่ที่กำลังก่อตัวในสโมสรแห่งนี้ และแผนงานระยะยาวที่น่าตื่นเต้นซึ่งจะพาเรากลับไปสู่ความยิ่งใหญ่”
— ไบรอัน เอ็มเบวโม่

เจ้าตัวยังเน้นถึงความสำคัญของสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด และฐานแฟนบอลอันแข็งแกร่ง ว่าเป็นแรงผลักดันสำคัญในการตัดสินใจย้ายมา และเป้าหมายหลักของเขาคือการนำทีมกลับมาลุ้นแชมป์ในทุกรายการอีกครั้ง

ความหวังใหม่ในแดนหน้า เพื่อแก้ปัญหาการจบสกอร์

การมาของเอ็มเบวโม่ถือเป็นการเสริมทัพที่ตอบโจทย์ทันทีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะในบริบทของปัญหาเกมรุกที่น่าเป็นห่วงตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา

ทีมปีศาจแดงจบฤดูกาลที่แล้วในอันดับที่ 15 ของตารางพรีเมียร์ลีก ซึ่งนับเป็นผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างยิ่ง และยัง เป็นรองเบรนท์ฟอร์ดถึง 5 อันดับ ทั้งยังมีสถิติจำนวนประตูที่น่าผิดหวัง

ด้วยการที่เอ็มเบวโม่กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ความคาดหวังจึงสูงตามไปด้วย โดยแฟนบอลและสื่อมวลชนต่างเฝ้ารอดูว่าเขาจะสามารถยกระดับแนวรุกของทีมได้หรือไม่

สัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงในยุคใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

การเซ็นสัญญากับเอ็มเบวโม่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเสริมผู้เล่นคุณภาพ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในการยกระดับทีมอย่างเป็นระบบ ภายใต้การนำของกุนซือใหม่อย่างรูเบน อาโมริม

การลงทุนมหาศาลในผู้เล่นรายนี้ถือเป็น สัญญาณแห่งการเปลี่ยนผ่าน ไปสู่ยุคใหม่ที่มีความหวัง พร้อมด้วยโครงสร้างที่เน้นการพัฒนาในระยะยาว และเน้นการสร้างทีมที่มีศักยภาพในการลุ้นแชมป์ทุกรายการทั้งในประเทศและเวทียุโรป

เหล่าแฟนบอล “เรดอาร์มี่” ทั่วโลกต่างเฝ้ารอให้เอ็มเบวโม่กลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของยุคสมัยใหม่ ที่จะนำพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับคืนสู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

Related News