
ลูก้า โมดริช ปิดฉากตำนานกับเรอัล มาดริดอย่างเป็นทางการ หลังพ่าย PSG ยับเยินในศึกสโมสรโลก 2025
Mansion Sports - ตำนานกองกลางชาวโครเอเชีย ลูก้า โมดริช ได้ลงสนามเป็นครั้งสุดท้ายในสีเสื้อของเรอัล มาดริด หลังจบการแข่งขันที่ทีมของเขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบต่อปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยสกอร์ 0–4 ในรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลก 2025 ที่จัดขึ้น ณ สนามเม็ทไลฟ์ สเตเดียม ประเทศสหรัฐอเมริกา
สิ้นสุดยุครุ่งโรจน์ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว
ลูก้า โมดริช ได้อำลาสโมสรเรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการ หลังจากที่เขารับใช้สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งกรุงมาดริดมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 13 ปี โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาได้ร่วมสร้างยุคทองของสโมสรด้วยผลงานที่ยิ่งใหญ่ทั้งในประเทศและระดับทวีป
ก่อนหน้านี้ โมดริชได้รับการจัดพิธีอำลาอย่างสมเกียรติ ณ สนามซานติอาโก เบร์นาเบว เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับคาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของทีมในขณะนั้น และเพื่อนร่วมทีมที่ใกล้ชิดอย่างลูคัส บาสเกซ
แม้จะมีการอำลาอย่างเป็นพิธีไปแล้ว แต่เขายังอยู่ในรายชื่อนักเตะอย่างเป็นทางการของทีมจนกระทั่งจบทัวร์นาเมนต์ในฤดูร้อนนี้
การปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในศึกฟุตบอลสโมสรโลก
ในรูปแบบใหม่ของการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลก ซึ่งมีการขยายจำนวนทีมให้มากขึ้น ลูก้า โมดริช มีบทบาทในฐานะผู้เล่นสำรองในทุกแมตช์ของเรอัล มาดริด โดยเขาลงสนามรวมเวลา 119 นาที
ตลอดทัวร์นาเมนต์ เขารับรู้ดีว่านี่คือโอกาสสุดท้ายในการลงเล่นภายใต้เสื้อสีขาวอันทรงเกียรติของเรอัล มาดริด
น่าเสียดายที่เกมสุดท้ายของเขาเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ เรอัล มาดริดเสียสองประตูในช่วง 9 นาทีแรกของการแข่งขัน เนื่องจากความผิดพลาดในแนวรับ และเมื่อโมดริชถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 64 ทีมก็ยังคงตามหลังอยู่ถึง 0–3
แม้จะมีเวลาลงสนามไม่มากนัก และต้องเผชิญกับสกอร์ที่เสียเปรียบอย่างมาก โมดริชยังคงแสดงให้เห็นถึงคุณภาพระดับตำนานของตน เขาจ่ายบอลพลาดเพียงครั้งเดียว ชนะในการดวลลูกกลางอากาศและพื้นสนามทุกครั้งที่มีส่วนร่วม และยังรับหน้าที่เล่นลูกตั้งเตะให้ทีมอย่างรับผิดชอบ
บรรยากาศแห่งความรู้สึกหลังสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย
เมื่อการแข่งขันจบลง และเรอัล มาดริดต้องยุติเส้นทางในรายการระดับโลก บทสุดท้ายของโมดริชในสีเสื้อราชันชุดขาวก็สิ้นสุดลงเช่นกัน
บรรยากาศหลังเกมเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ ทั้งผู้เล่นของมาดริดและ PSG ต่างเข้ามาสวมกอดและแสดงความเคารพต่อตำนานแห่งวงการลูกหนังรายนี้
หนึ่งในภาพที่สะเทือนใจและน่าจดจำที่สุด คือการที่โมดริชได้สวมกอดกับอดีตเพื่อนร่วมทีมและโค้ชปัจจุบันของ PSG ซาบี อลอนโซ่ ณ กลางสนามราวกับเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านยุคสมัย และการสิ้นสุดของช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรป
มรดกอันยิ่งใหญ่ที่ทิ้งไว้ให้ราชันชุดขาว
ลูก้า โมดริช ได้ฝากผลงานอันเป็นที่จดจำไว้ให้กับเรอัล มาดริดอย่างไม่มีวันลบเลือน เขาลงสนามให้สโมสรเกือบ 600 นัด และถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม
ตลอดระยะเวลา 13 ปีแห่งการอุทิศตน เขาได้ร่วมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกถึง 6 สมัย และกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของสโมสรในยุคโมเดิร์น
ชื่อของโมดริชจะถูกจารึกไว้เคียงข้างกับตำนานของสโมสรเรอัล มาดริด ตลอดกาล
บทใหม่ในอาชีพกับเอซี มิลาน
ภายหลังการอำลาถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว ลูก้า โมดริช เตรียมเริ่มต้นบทใหม่ในเส้นทางลูกหนังกับสโมสรเอซี มิลาน ทีมชั้นนำแห่งกัลโช เซเรีย อา อิตาลี
การย้ายไปร่วมทัพปีศาจแดง-ดำ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปี 2018 ซึ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะลงเล่นในระดับสูงสุดของโลกฟุตบอลต่อไป
โมดริชมีความตั้งใจที่จะนำประสบการณ์อันล้ำค่าและความเป็นมืออาชีพของเขาไปช่วยยกระดับฟอร์มการเล่นของมิลาน เช่นเดียวกับสิ่งที่เขาเคยมอบให้กับเรอัล มาดริดมาตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
ด้วยการปิดฉากอาชีพอันยิ่งใหญ่ในเมืองหลวงของสเปน โมดริชกำลังจะเปิดฉากการเดินทางครั้งใหม่ในอิตาลี ซึ่งแฟนฟุตบอลทั่วโลกต่างเฝ้ารอดูว่าเขาจะสามารถสร้างตำนานบทต่อไปได้อย่างยิ่งใหญ่เพียงใด