
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทะยานสู่รอบชิงชนะเลิศ หลังถล่มเรอัล มาดริด 4-0
Mansion Sports - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) ได้รับการยืนยันผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลสโมสรโลก 2025 อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากคว้าชัยชนะเหนือเรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ขาดลอย 4-0 ในรอบรองชนะเลิศที่จัดขึ้น ณ สนามเม็ทไลฟ์ สเตเดียม เมืองอีสต์ รัทเธอร์ฟอร์ด ในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ตามเวลาไทย
การแข่งขันนัดนี้กลายเป็นเวทีที่ PSG ภายใต้การคุมทัพของกุนซือหลุยส์ เอ็นริเก้ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเฉียบคมในแท็กติก ความมีวินัยในการเล่น และประสิทธิภาพในจังหวะสำคัญ ๆ อย่างเหนือชั้น
ขณะที่เรอัล มาดริด ซึ่งมาเยือนด้วยความมั่นใจ กลับไม่สามารถทานแรงกดดันจากทีมแชมป์ลีกฝรั่งเศสได้เลยตั้งแต่นาทีแรกของเกม การครองบอลเพื่อสร้างสรรค์เกมบุกของพวกเขาถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการไล่บีบของผู้เล่น PSG
สองประตูในช่วงต้นเกมทำให้ความมั่นใจของลูกทีมคาร์โล อันเชล็อตติ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถฟื้นคืนความมั่นใจกลับมาได้อีก
ความผิดพลาดของเรอัล มาดริด กลายเป็นหายนะ
การแข่งขันเพิ่งเริ่มไปได้เพียง 4 นาที PSG ก็มีโอกาสทองแรกจากการเปิดบอลทางฝั่งขวาของอัชราฟ ฮาคิมิ ไปยังเสาสองให้ นูโน่ เมนเดส ได้ลองยิง แต่บอลยังไปติดเซฟของติโบต์ กูร์ตัวส์
อย่างไรก็ตาม เพียงสองนาทีถัดมา ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของราอูล อาเซนซิโอ ในกรอบเขตโทษของตัวเอง ส่งผลให้บอลหลุดไปอยู่ในครอบครองของอุสมาน เด็มเบเล่ ที่พยายามยิงเอง แต่บอลกระดอนออกมาและ ฟาเบียน รูอิซ ซัดเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูแรกให้กับ PSG
ถัดมาในนาทีที่ 9 ความประมาทของอันโตนิโอ รูดิเกอร์ ก็ทำให้ทีมต้องเสียประตูที่สอง เมื่อเขาเสียบอลบริเวณแดนหลัง เด็มเบเล่จึงฉวยโอกาสพาบอลเข้าไปยิงด้วยความเฉียบคม ส่งบอลเข้าไปยังมุมซ้ายของประตูโดยที่กูร์ตัวส์ไม่สามารถป้องกันได้
เกมโต้กลับอันเฉียบขาดนำมาซึ่งประตูที่สาม
เรอัล มาดริด พยายามตอบโต้ด้วยการเปิดเกมบุกขึ้นมา แต่กลับถูกลงโทษอีกครั้งในนาทีที่ 24 จากจังหวะสวนกลับที่รวดเร็วของ PSG
อัชราฟ ฮาคิมิ รับบทเพลย์เมกเกอร์อีกครั้งด้วยการเปิดบอลจากฝั่งขวาไปยังฟาเบียน รูอิซ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิ่งและความแม่นยำในการยิง ส่งบอลเข้าตาข่ายเป็นประตูที่สามของเกมนี้ รวมถึงประตูที่สองของเขาในแมตช์นี้
กอนซาโล รามอส ปิดกล่องด้วยประตูสุดท้าย
เข้าสู่ครึ่งหลัง เรอัล มาดริด พยายามเร่งเกมรุกเพื่อทวงประตูคืน แต่โอกาสลุ้นประตูของพวกเขายังคงมีอยู่อย่างจำกัด โดยมีเพียงลูกยิงเข้ากรอบครั้งเดียวจากเอแดร์ มิลิเตา ขณะที่ฝั่ง PSG กลับยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ และรอจังหวะโต้กลับอย่างชาญฉลาด
ในนาทีที่ 87 ความเด็ดขาดของเกมโต้กลับก็แสดงผลอีกครั้ง อัชราฟ ฮาคิมิ วิ่งขึ้นมาทางฝั่งขวาแล้วเปิดบอลข้ามฟากไปยังแบรดลีย์ บาร์โคล่า ทางซ้าย ก่อนที่เขาจะจ่ายบอลต่อให้กอนซาโล รามอส ซึ่งหันหลังให้ประตู ก่อนจะหมุนตัวกลับแล้วยิงเข้ามุมซ้ายของประตูอย่างเฉียบคม เป็นประตูที่สี่ของทีม
รอบชิงชนะเลิศกับเชลซีรออยู่เบื้องหน้า
ชัยชนะที่น่าประทับใจเหนือเรอัล มาดริด ส่ง PSG เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลสโมสรโลก 2025 ซึ่งพวกเขาจะต้องพบกับเชลซี ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายจากการชนะในรอบรองชนะเลิศอีกคู่หนึ่ง
นับเป็นโอกาสทองของ PSG ในการสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกสโมสรครั้งแรกของสโมสร โดยจากฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจ ความเป็นหนึ่งเดียวของทีม และประสิทธิภาพในการเล่น พวกเขาถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งของรายการนี้
สำหรับเรอัล มาดริด ความพ่ายแพ้แบบขาดลอยนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญและต้องนำกลับไปวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อปรับปรุงผลงานในเวทีระดับนานาชาติให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต