Mansion Sports - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสร ด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังพลิกสถานการณ์จากความพ่ายแพ้กลับมาเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ผ่านการดวลจุดโทษสุดดราม่าเมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา ความสำเร็จครั้งนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้น เนื่องจากเกิดจากการคัมแบ็กในช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งเป็นการเปิดฤดูกาลฟุตบอลยุโรประหว่างแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีกของฤดูกาลก่อน โดยการแข่งขันมีขึ้นที่เมืองอูดิเน ประเทศอิตาลี เพียงหนึ่งเดือนหลังจากที่ PSG ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรโลก ฟีฟ่า

การขาดหายของดอนนารุมมาและการตัดสินใจเด็ดขาดของหลุยส์ เอ็นริเก

หลุยส์ เอ็นริเก กุนซือของ PSG เลือกส่งผู้เล่นตัวหลักเกือบทั้งหมดจากชุดที่ถล่มอินเตอร์ มิลาน ในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และพาทีมกลายเป็นสโมสรฝรั่งเศสทีมแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ อย่างไรก็ตาม จุดสนใจสำคัญกลับอยู่ที่การไม่มีชื่อ จานลุยจิ ดอนนารุมมา ซึ่งเพิ่งตัดสินใจอำลาสโมสร ทำให้ตำแหน่งผู้รักษาประตูตกเป็นของ ลูคัส เชฟาลิเยร์ นายทวารคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจากลีลล์

เดบิวต์เกือบสวยของโธมัส แฟรงก์ กับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

ในฝั่งของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เกมนี้เป็นแมตช์ประเดิมตำแหน่งกุนซือของโธมัส แฟรงก์ อดีตผู้จัดการทีมเบรนท์ฟอร์ด แม้สเปอร์สจะครองบอลน้อยกว่า แต่กลับสร้างโอกาสได้มากกว่าและนำห่างถึง 2–0 จนถึงช่วงท้ายเกม ประตูแรกของสเปอร์สเกิดขึ้นก่อนจบครึ่งแรกไม่นาน เมื่อชูเอา ปัลญินญา เกือบทำประตูจากการยิงระยะเผาขนที่เชฟาลิเยร์ปัดไปชนคาน ก่อนที่บอลจะเด้งมาถึงมิคกี ฟาน เดอ เฟน ที่ตามซ้ำเข้าไปเป็น 1–0

ในครึ่งหลัง เชฟาลิเยร์ทำพลาดจากการป้องกันลูกโหม่งของคริสเตียน โรเมโร แม้จะใช้มือทั้งสองปัดแต่บอลยังไหลเข้าประตู ทำให้สเปอร์สหนีเป็น 2–0

การคัมแบ็กสุดเร้าใจของ PSG ในนาทีท้ายเกม

แม้จะตามหลังอยู่สองประตู แต่ PSG แสดงให้เห็นถึงหัวใจนักสู้ ห้านาทีก่อนหมดเวลาปกติ อี คังอิน ยิงไกลด้วยความแม่นยำ ส่งบอลเสียบมุมล่างอย่างสวยงาม ช่วยให้ทีมไล่มาเป็น 2–1 แต่พวกเขายังต้องการอีกหนึ่งประตูเพื่อไปต่อในช่วงดวลจุดโทษ

ความหวังมาถึงในช่วงทดเวลานาทีที่หก จากจังหวะโต้กลับเร็วทางฝั่งขวา อุสมาน เดมเบเล่ เปิดบอลเรียดพุ่งแรงเข้ากลางเขตโทษ และกอนซาโล รามอส โหม่งเต็มแรงเข้าประตู ตีเสมอเป็น 2–2 และต้องตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ

ดราม่าดวลจุดโทษและการชูถ้วยประวัติศาสตร์

การยิงจุดโทษเริ่มต้นด้วยความกดดันของ PSG เมื่อวิตินญา ยิงพลาด แต่เชฟาลิเยร์แก้ตัวสำเร็จด้วยการเซฟลูกยิงของฟาน เดอ เฟน ทำให้สถานการณ์กลับมาเสมอ 2–2 หลังยิงไปสามคน ความผิดพลาดของมาทิส เทล ฝั่งสเปอร์ส เปิดโอกาสให้ PSG ขึ้นนำจากการยิงของอี คังอิน

แม้เปโดร ปอร์โร จะช่วยให้สเปอร์สยังมีความหวัง แต่ นูโน เมนเดส รับหน้าที่สังหารลูกปิดท้าย และทำสำเร็จ ส่งผลให้ PSG คว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงเพิ่มเกียรติยศให้กับ PSG เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าพวกเขายังคงเป็นทีมระดับแถวหน้าของยุโรป แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในขุมกำลังผู้เล่นก็ตาม